แบบฝึกหัด
คำสั่ง หลังจากนักศึกษาได้ศึกษาบทเรียนนี้แล้ว จงตอบคำถามตอไปนี้ให้ถูกต้อง
1. ท่านคิดว่าทำไมมนุษย์เราต้องมีกฎหมายหากไม่มีจะเป็นอย่างไร
ตอบ เพราะมนุษย์เป็นสัตย์อันประเสริฐที่เกิดตามธรรมชาติที่มีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
แต่มนุษย์
ไม่สามารถอยู่โดดเดี่ยวตามลำพังได้
จำเป็นต้องอาศัยพึ่งพาเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอยู่ร่วมกันเป็นสังคม
เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตและอยู่รอดได้
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีกฎหมายเพื่อเป็นสิ่งที่เตือนใจและเป็นการตัดสินการแก้ปัญหาในสังคม
2. ท่านคิดว่าสังคมปัจจุบันจะอยู่ได้หรือไม่หากไม่มีกฎหมายและจะเป็นอย่างไร
ตอบ อยู่ไม่ได้ เพราะกฎหมายเป็นข้อกำหนดในการประพฤติปฏิบัติของบุคคลในสังคมให้อยู่ในการไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของแต่ละบุคคล
3.
ท่านมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายในประเด็นต่อไปนี้
ก. ความหมาย ข. ลักษณะหรือองค์ประกอบของกฎหมาย
ค. ที่มาของกฎหมาย ง.
ประเภทของกฎหมาย
ตอบ ก.
ความหมาย
ตอบ - หมายถึงคำสั่งหรือข้อบังคับความประพฤติของมนุษย์ ซึ่งผู้มีอำนาจสูงสุด หรือรัฏฐาธิปัตย์เป็นผู้บัญญัติขึ้นผู้ใดฝ่าฝืน
มีสภาพบังคับ
ข. ลักษณะหรือองค์ประกอบของกฎหมาย
ตอบ- 1. ใครสักคนได้ประกาศหรือโฆษณาแก่บุคคลทั่วไป
2. การประกาศนั้นเป็นการบอกให้กระทำความผิดที่มีโทษทางอาญา
3.โทษทางอาญานั้นเป็นความผิดที่มีโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า ๖ เดือน
4. แค่การประกาศนั้น
ผู้ประกาศหรือโฆษณาก็ต้องรับผิดกี่งหนึ่งของโทษที่กฎหมายกำหนดให้เป็นความผิด
5. ถ้าเกิดมีการทำความผิดเกิดขึ้น
ผู้ประกาศที่ว่านั้นก็ต้องรับโทษเท่ากับได้ไปทำผิดเอง
ค.
ที่มาของกฎหมาย
ตอบ - กฎหมายของประเทศไทย
พอที่จะสรุปได้ 5 ลักษณะดังนี้
1. บทบัญญัติแห่งกฎหมาย เป็นกฎหมายลักษณะอักษร ผู้มีอำนาจแห่งรัฐหรือผู้ปกครองประเทศเป็นผู้ออกกฎหมาย
2. จารีตประเพณี
เป็นแบบอย่างทีประชาชนนิยมปฏิบัติตามกันมานาน หากนำไปบัญญัติเป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษรแล้วย่อมมีสภาพไปเป็นกฎหมาย
3. ศาสนา เป็นข้อห้ามและข้อปฏิบัติที่ดีของทุก ๆ ศาสนาสอนให้เป็นคนดี
4. คำพิพากษาของศาลหรือหลักบรรทัดฐานของคำพิพากษา อาจนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายในแนวความคิดนี้ได้
จะต้องตรงตามหลักความเป็นจริงมากที่สุด
5. ความเห็นของนักนิติศาสตร์ เป็นการแสดงความคิดเห็นว่าสมควรที่จะออกกฎหมายอย่างนั้น
สมควรหรือไม่ จึงทำให้นักนิติศาสตร์ อาจจะเป็นอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงในกฎหมายได้แสดงว่ากฎหมายฉบับนั้นได้
ง. ประเภทของกฎหมาย
ตอบ - ได้มีนักวิชาการแบ่งประเภทของกฎหมายไว้หลากหลาย
ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ในการแบ่งของแต่ละคน
-
แบ่งโดยแหล่งกำเนิด
-
แบ่งโดยถือเนื้อหาเป็นหลัก
-
แบ่งโดยถือสภาพบังคับกฎหมายเป็นหลัก
-
แบ่งโดยถือลักษณะเป็นหลัก
-
แบ่งโดยถือฐานะและความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนเป็นเกณฑ์
-
4. ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร
ว่า ทำไมทุกประเทศจำเป็นต้องมีกฎหมาย จงอธิบาย
ตอบ เพราะ กฎหมายคือ คำสั่งหรือข้อบังคับที่เกิดจากรัฎฐาธิปไตย จากคณะบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดของรัฐ เป็นข้อบังคับใช้กับคนทุกคนที่อยู่ในรัฐหรือประเทศนั้นๆ
จะต้องปฏิบัติตามและมีสภาพบังคับที่มีการกำหนดบทลงโทษ
ดังนั้นทุกประเทศจึงจำเป็นที่จะต้องมีกฎหมายเป็นข้อที่ควรปฏิบัติตามกันทุกประเทศ
5. สภาพบังคับในทางกฎหมายท่านมีความเข้าใจอย่างไร
จงอธิบาย
ตอบ สภาพบังคับในทางกฎหมาย
ซึ่งบุคคลจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยเฉพาะการกระทำและการงดเว้นการกระทำตามกฎหมายนั้นๆ กำหนด หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามฝ่าฝืนอาจถูกลงโทษหรือไม่ก็ได้
และสภาพบังคับในทางอาญา
6. สภาพบังคับกฎหมายในอาญาและทางแพ่ง
มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ แตกต่างกัน เพราะสภาพบังคับในทางอาญาคือ โทษ
ซึ่งตามกฎหมายกำหนดไว้มี 5 ชนิด
และสภาพบังคับในทางแพ่งคือ
การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่กัน
7. ระบบกฎหมายเป็นอย่างไร
จงอธิบาย
ตอบ แบ่งเป็น 2 ระบบดังนี้
7.1 ระบบซีวิลลอร์ หรือระบบลายลักษณ์อักษร
กำเนิดขึ้นในทวีปยุโรปราวคริสต์ศตวรรษที่ 12
เป็นบรรทัดฐานแบบอย่างของการตีความกฎหมาย เท่านั้น เริ่มต้นจากตัวบทกฎหมายเป็นสำคัญ จะถือเอาคำพิพากษาศาลหรือความคิดเห็นของนักกฎหมายเป็นหลักไม่ได้
7.2 ระบบคอมมอนลอว์ เกดและวิวัฒนาการขึ้นในประเทศอังกฤษ
เป็นการพัฒนามาจากกฎหมายที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร นำเอาจารีตประเพณี และคำพิพากษา ซึ่งเป็นบรรทัดฐานของศาลสมัยเก่ามาใช้
8.
ประเภทของกฎหมายมีหลักการแบ่งอย่างไรบ้าง มีกี่ประเภท แต่ละประเภทประกอบด้วยอะไรบ้าง
ยกตัวอย่างอธิบาย
ตอบ นิยมทำกันในประเทศที่ใช้ระบบกฎหมายลายลักษณ์อักษร
โดยที่ตามคตินิยมของวิชานิติศาสตร์นั้นจะมีการแยกประเภทของกฎหมายออกเป็น กฎหมายมหาชน
และกฎหมายเอกชน
แบ่งได้เป็น 5 ประเภท ดังนี้
1.
การแบ่งแยกประเภทของกฎหมายตามลักษณะความสัมพันธ์หรือตามข้อความของกฎหมาย
2. กฎหมายปกครอง
3. กฎหมายอาญา
4.
กฎหมายพระรัฐธรรมนูญศาลยุติธรรม
5. กฎหมายระหว่างประเทศ
9. ท่านเข้าใจถึงคำว่าศักดิ์ของกฎหมายคืออะไร มีการแบ่งอย่างไร
ตอบ กฎหมายหรือบทบัญญัติใดของกฎหมายที่อยู่ในลำดับที่ต่ำกว่า
จะขัดหรือแย้งกับกฎหมายในลำดับที่สูงกว่าไม่ได้และเราจะพิจารณาจากองค์กรที่มีอำนาจในการออกกฎหมาย
โดยใช้เหตุผลว่า
1.
การออกกฎหมายโดยฝ่ายนิติบัญญัติ ควรจะเป็นกฎหมายเฉพาะที่สำคัญ
เป็นการกำหนดหลักการและนโยบายเท่านั้น
2.
การให้รัฐสภา เป็นการทุ่นเวลา และทนต่อความต้องการและความจำเป็นของสังคม
3.
ฝ่ายบริหารหรือองค์กรอื่นจะออกกฎหมายลูกจะต้องอยู่ในกรอบของหลักการและนโยบายในกฎหมายหลักฉบับนั้น
10. เหตุการณ์
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน
2555 มีเหตุการณ์ชุมนุมของประชาชน
ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า และประชาชนได้ประกาศว่าจะมีการประชุมอย่างสงบ แต่ปรากฏว่า รัฐบาลประกาศเป็นเขตพื้นที่ห้ามชุมนุม
และขัดขวางไม่ให้ประชาชนชุมนุมอย่างสงบ
ลงมือทำร้ายร่างกายประชาชน ในฐานะท่านเรียนวิชานี้ท่านจะอธิบายบอกเหตุผลว่า รัฐบาลกระทำผิดหรือถูก
ตอบ ในการชุมนุมในครั้งนั้นรัฐบาลเป็นฝ่ายผิด
เพราะไม่ฟังการเรียกร้องหรือการชุมนุมของประชาชน
เพราะประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการเรียกร้องและประชาชนก็ได้ประกาศแล้วว่าจะชุมนุมกันอย่างสงบแตรัฐบาลยังมีการขัดขวางและทำร้ายประชาชน
11. ท่านมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ คำว่า กฎหมายการศึกษาอย่างไร
จงอธิบาย
ตอบ กฎหมายการศึกษา คือ บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับกฎ
คำสั่งหรือข้อบังคับของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาที่สถาบันหน่วยงานผู้มีอำนาจได้ตราขึ้นและมีผลบังคับใช้
12. ในฐานะที่นักศึกษาจะต้องเรียนวิชานี้ ถ้าเราไม่ศึกษากฎหมายการศึกษาท่านคิดว่า เมื่อท่านไปประกอบอาชีพครู จะมีผลกระทบต่อท่านอย่างไรบ้าง
ตอบ มีผลกระทบเพราะจะทำให้เราไม่สามารถที่จะเรียนรู้หรือตอบในคำถามและการปฏิบัติตนในการเป็นครูได้ไม่ดีเพียงพอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น